ศึกหวดลูกขนไก่สะสมคะแนนโลก เอชเอสบีซี เวิลด์ ทัวร์ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2019
เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000ปรากฏว่า รอบรองชนะเลิศ ชายเดี่ยว กันต์ กันตภณ หวังเจริญ มือ 18 ของโลก ต้องจบเส้นทางที่รอบนี้ เมื่อพ่ายให้คู่ประบตลอดกาล จากไต้หวัน ด้าน คุณหญิงปัทมาฯ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย มองเชิงบวก มือหวดไทยพัฒนาการเล่นได้ดีขึ้นตามลำดับ การแข่งขันแบดมินตันสะสมคะแนนโลก เอชเอสบีซี เวิลด์ ทัวร์ รายการ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2019 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 38 ล้านบาท ที่กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ในรอบรองชนะเลิศ ชายเดี่ยว ปรากฏว่า กันต์ กันตภณ หวังเจริญ มือ 18 ของโลก ที่รอบ 16 คน โค่นมือดีขวัญใจเจ้าถิ่นอย่าง แอนโธนี่ กินติ้ง มือ 8 ของโลก มาได้ 2-1 เกม ลงพบกับ โจว เทียน เฉิน มือ 3 ของโลก และมือ 4 ของรายการ จากไต้หวัน สำหรับสถิติการพบกัน 3 ครั้งเป็น มือหวดไต้หวัน เอาชนะไปทั้ง 3 รวมทั้งครั้งนี้ คร้งที่ 4 ปรากฎว่ากันต์ แพ้ ให้ โจวเทียนเฉิน 1 2 เกม คือ 19-21 , 21-18 และ 16-21 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า แม้นักแบดมินตันไทยจะแพ้ในเกมนี้ แต่ผลงานโดยรวมของ กันต์ กันตภณ หวังเจริญ ในรายการนี้นับว่าดีมาก มีการพัฒนาที่ดีขึ้นมาก ทั้งด้านพละกำลัง ความแข็งแรง ความเร็ว และเทคนิคการเล่น จนสามารถ ชนะ คันตะ ซึเนะยามะ มือ 15 ของโลก จากญี่ปุ่น,แอนโธนี่ กินติ้ง มือ 8 ของโลก และ หวง ยู้ เซียง มือ 29 ของโลก จากจีน ที่เอาชนะ เคนโตะ โมโมตะ มือ 1 ของโลกจากญี่ปุ่นมาได้ แต่ กันต์ ก็สามารถชนะมาได้ ส่วนตัวคิดว่าประเภทชายเดี่ยวเวลานี้ ทุกคนมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ได้ไม่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับจังหวะ และฟอร์มการเล่นในวันนั้นๆ รวมถึงความแข็งแกร่งของสภาพจิตใจแต่ละคน ดังนั้นหากมองในแง่ของการพัฒนาฟอร์มการเล่นมั่นใจว่า นักแบดมินไทย ทำได้ดีที่สุดแล้วกับภารกิจ
เพิ่มเติม >> https://www.4dcaraudio.com
เครดิต >> https://www.ufabet123.com